• Home
  • บริหารงานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์

บริหารงานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์

งานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์คืออะไร?

     งานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์ คือ การบริหารจัดการยานพาหนะเชิงบำรุงรักษาให้เครื่องยนต์ของยานพาหนะหรือเครื่องจักร อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน หรือพร้อมสำหรับปริมาณงานที่ต้องการอยู่เสมอ เช่น การกำหนดตารางบำรุงรักษารถ การดูแลให้รถเข้าบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา การติดตามการใช้น้ำมัน หรือแม้แต่การวางแผนเส้นทางการขับขี่ให้กับยานพาหนะ

หน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการยานพาหนะ มีอะไรบ้าง?

ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะทั่วไปว่ามีอะไรบ้าง

1. การบำรุงรักษาเป็นประจำ

     การบำรุงรักษายานพาหนะเป็นประจำช่วยป้องกันการเสียหายและยืดอายุการใช้งานของรถของคุณ กำหนดการตรวจสอบ การซ่อมแซม และการรับการบริการตามระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ยานพาหนะของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการขาดโอกาสใช้งานยานพาหนะให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

2. การปรับปรุงเส้นทางการขับขี่

     การปรับปรุงเส้นทางการขับขี่ช่วยลดเวลาการขนส่งหรือการเดินทาง ลดปริมาณน้ำมันที่ใช้ และลดต้นทุนการดำเนินงานขนส่งโดยรวมได้

3. การบริหารจัดการการใช้น้ำมัน

     พฤติกรรมการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันในหมู่พนักงานขับรถ สร้างแรงจูงใจในการขับแบบประหยัด (eco-driving) และแสดงข้อมูลการใช้น้ำมันแบบเรียลไทม์ พฤติกรรมเหล่านี้ของคนขับขี่ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันเป็นอย่างมากและเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม

4. การสร้างมาตรการความปลอดภัย

     สร้างและใช้มาตรการความปลอดภัยที่ครอบคลุมเพื่อปกป้องผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก เช่น จัดฝึกอบรมผู้ขับขี่ที่เน้นย้ำการขับขี่ปลอดภัย การติดตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่อง และการปฏิบัติตามข้อบังคับด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

5. การอัพเดตเทคโนโลยีทันสมัยในการบริหารงาน

     การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น GPS ระบบเทเลเมติกส์ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานยานพาหนะ ประสิทธิภาพ และ พฤติกรรมการขับขี่ของรถ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจ ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินงานได้อย่างถูกต้อง และมีผลดีที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งมักจะออกมาในรูปแบบของต้นทุนที่ลดลง และผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้น

6. การควบคุมต้นทุนขนส่ง

     ติดตามค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เจรจาเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดกับซัพพลายเออร์ และดำเนินการตามมาตรการประหยัดต้นทุน แนวทางเชิงรุกนี้ช่วยรักษาสุขภาพทางการเงินของบริษัท และรับรองการดำเนินงานของรถอย่างยั่งยืนในระยะยาว

7. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ

     ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถอยู่เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามและหลีกเลี่ยงการลงโทษที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดน้ำมัน การบำรุงรักษายานพาหนะ และการปฏิบัติตามกฎจราจร

8. การทำงานควบคู่กับดูแลสิ่งแวดล้อม

     ส่งเสริมการขับขี่เป็นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประหยัดน้ำมันหรือใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เช่น รถพลังงานไฟฟ้า และวิธีอื่นๆ ที่ช่วยดูแลรักษาสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น สิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่รับผิดชอบ และช่วยในธุรกิจที่ต้องการจะปฏิบัติตามหลัก ESG ด้วย

9. การวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงาน

     วิเคราะห์แนวโน้มข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเชิงรุก นำไปสู่การประหยัดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพของยานะาหนะอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจจะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของธุรกิจ และ การแข่งขันในแวดวงธุรกิจของตัวเอง ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

10. การจัดการประกันภัย

     ประเมินความเสี่ยงการขับขี่และการใช้รถเป็นประจำ ควบคุมโปรแกรมความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และทำงานร่วมกับบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับเงื่อนไขและความคุ้มครองที่ดีที่สุด สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจว่ายานพาหนะใช้งานในธุรกิจของคุณได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอต่อความเสี่ยงและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น

ประโยชน์ที่ได้รับจากการบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ 

     ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ ช่วยให้การทำงานด้านการขนส่งเดินหน้าต่ออย่างราบรื่น เป็นเหตุผลหลักของการซ่อมบำรุงรักษายานพาหนะในรายละเอียดนั้น สามารถสรุปได้ดังนี้

  1. ธุรกิจได้รับอัปเดตข้อมูลสภาพยานพาหนะ แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาติดตามเอง
  2. ธุรกิจได้รับแจ้งเตือนตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ล่วงหน้า ที่เหมาะสมกับสภาพเครื่องยนต์ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตามระยะเวลา ซึ่งอาจไม่เข้ากับสภาพที่แท้จริงของเครื่องยนต์และทำให้รถเสื่อมสภาพเร็วอยู่ดี
  3. ธุรกิจจะเลือกใช้งานรถหรือเครื่องจักร ได้เหมาะสมกับสภาพของรถหรือเครื่องจักร นอกเหนือจากสภาพของงาน ช่วยให้ทั้งได้งานและได้ใช้รถหรือเครื่องจักรอย่างคุ้มค่าในระยะยาว
  4. รถใช้งานจะใช้น้ำมันได้คุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากเครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมอยู่เสมอ มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี และควบคุมให้ใช้รถเฉพาะเรื่องงานได้
  5. ธุรกิจจะเจอค่าปรับหรือค่าฝ่าฝืนกฎจราจรน้อยลง เมื่อรถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และการขับขี่ถูกต้อง การถูกปรับหรือการทำผิดกฎหมายก็จะน้อยลง ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย

Categories:

Leave Comment