GPS ติดรถ คืออะไร?
GPS ติดรถ คือ อุปกรณ์และเทคโนโลยีระบุตำแหน่งของรถ เพื่อติดตามพิกัดและจัดการเส้นทางการเดินทางของรถ ในปัจจุบัน เทคโนโลยี GPS ติดรถ ที่ใช้งานกันจะเป็นแบบเรียลไทม์ (Real-Time) หรือแจ้งข้อมูล ณ เวลาปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์การทำงานที่เดินไปข้างหน้าตลอดเวลาในทุกวันนี้
GPS ติดรถ มีกี่แบบ?
GPS ติดรถ ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วไปมี 2 แบบ ดังนี้
1. GPS นำทาง หรือ Navigator วิธีการทำงานของระบบ GPS นำทาง คือ ผู้ขับขี่เพิ่มข้อมูลจุดหมายปลายทางที่ต้องการเดินทางไป ระบบจะประมวลข้อมูลพิกัดที่รถอยู่ปัจจุบัน และพิกัดปลายทาง และแสดงผลออกมาเป็นเส้นทางการขับขี่ให้ ทั้งนี้ ระบบ GPS นำทางที่ทันสมัยจะสามารถดึงเอาข้อมูลการจราจรปัจจุบันเข้ามาร่วมประมวลผลด้วย โดยความสามารถดึงข้อมูลนี้เข้ามาประมวลได้ ก็จะทำให้ผู้ขับขี่ได้เส้นทางการขับขี่ที่เหมาะสมกับการเดินทาง ณ เวลานั้นมากที่สุดด้วย
2. GPS ติดตามรถ หรือ GPS Tracking System ส่วน GPS ติดตามรถ คือ ระบบติดตามรถหรือยานพาหนะเพื่อติดตามพิกัด และส่งข้อมูลกลับไปยังผู้ติดตามรถว่า รถหรือยานพาหนะที่ติดตามนั้นอยู่ที่ไหน โดยมีการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์อัปเดตทุกๆการเคลื่อนไหว
ประโยชน์ของGPS ติดตามรถ หรือ GPS Tracking System
- ติดตามพิกัดของยานพาหนะปัจจุบันหรือ Real-Time
- บันทึกพิกัดและข้อมูลการใช้งานเครื่องยนต์ การใช้น้ำมัน ผู้ขับขี่ และการเดินทางที่ผ่านมาของยานพาหนะ
- ติดตามสภาพเครื่องยนต์ของยานพาหนะ และแจ้งเตือนการบำรุงรักษาตามความเหมาะสมหรือตามค่ากำหนดที่เจ้าของธุรกิจหรือผู้จัดการยานพาหนะตั้งไว้
- ติดตามส่วนต่างๆ ของยานพาหนะเป็นพิเศษ ขึ้นอยู่กับการติดตั้งของเซนเซอร์พิเศษที่ได้ติดตั้งไว้ เช่น การเปิดปิดประตูตู้สินค้า อุณหภูมิห้องเย็น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ
- แจ้งเตือนในระบบติดตาม ในเรื่องที่ต้องการรู้ เช่น การเข้าออกสถานที่ที่ติดตามอยู่ การขับเร็ว การกระชากเครื่องยนต์ เข้าโค้งแรง หรืออื่น ๆ ที่เสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ภาวะน้ำมันในถังน้ำมันลดลงผิดปกติ ฯลฯ
- ควบคุมการทำงานบางส่วนของยานพาหนะจากทางไกล เช่น การหยุดการเคลื่อนไหวหรือระบบตัดสตาร์ท
วางแผนเส้นทางการเดินทางและนำทางการขับขี่ (ความสามารถของ GPS นำทาง)
ธุรกิจของคุณควรเลือกใช้ GPS แบบไหน?
1. ประเภทธุรกิจและการใช้งาน
ธุรกิจขนส่ง / โลจิสติกส์ (GPS ติดตามรถ)
- ติดตามตำแหน่งของรถขนส่งได้ตลอดเวลา
- วางแผนเส้นทางที่เร็วที่สุดและลดเวลาการขนส่ง
- แจ้งเตือนหากรถออกนอกเส้นทาง มีสัญญาณถูกขโมยน้ำมัน (ปัญหาหลักของธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์) หรือมีการขับขี่ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
ธุรกิจเดลิเวอรี่ / ร้านค้าออนไลน์ (GPS ติดตามรถ และ GPS นำทาง)
- ระบบนำทางช่วยให้พนักงานขับรถไปถึงจุดหมายได้รวดเร็ว
- แจ้งเวลาส่งของให้ลูกค้าแบบเรียลไทม์ได้
- ตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานขับรถได้
ธุรกิจที่ต้องควบคุมอุณหภูมิสินค้า (GPS ติดตามพร้อมเซนเซอร์พิเศษ)
- มีเซนเซอร์ตรวจสอบอุณหภูมิในรถขนส่ง
- แจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงผิดปกติ
- ป้องกันความเสียหายของสินค้า
- มีข้อมูลยืนยันคุณภาพการขนส่ง
ธุรกิจเช่ารถ / บริการขนส่งสาธารณะ (GPS ติดตาม)
- ตัดสตาร์ทรถจากระยะไกล หากเกิดการโจรกรรม
- ติดตามการใช้งานของลูกค้าและป้องกันการขับออกนอกพื้นที่ที่กำหนด
- บันทึกพฤติกรรมการขับขี่
2. ความต้องการของธุรกิจ
- ติดตามแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการควบคุมการเดินทางของรถแบบสด ๆ
- บันทึกข้อมูลย้อนหลัง สำหรับตรวจสอบเส้นทางและพฤติกรรมขับขี่
- แจ้งเตือนอุบัติเหตุ / ขับขี่อันตราย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- เซนเซอร์ตรวจสอบอุณหภูมิ / ประตูสินค้า เหมาะสำหรับธุรกิจที่ขนส่งสินค้าพิเศษ
- ควบคุมรถจากระยะไกล เพื่อป้องกันการโจรกรรมและใช้งานผิดประเภท
3. ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา
- ค่าอุปกรณ์และค่าติดตั้ง ควรเลือกใช้ GPS ที่ให้บริการครบวงจรและมีการใช้งานที่คุ้มค่าเหมาะสมกับราคา
- ค่าบริการรายเดือน ธุรกิจต้องวิเคราะห์เพื่อให้ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผลกับประโยชน์ที่ได้รับ
- การดูแลลูกค้าและบริการหลังการขายต่างๆ เลือกผู้ให้บริการที่มีการดูแลระบบตลอดอายุการใช้งาน